การเลือกซื้อกล้องส่องทางไกล

 1)    อ่านสเปก

เมื่อคุณไปเลือกซื้อกล้องสองตา ตัวเลขสำคัญที่ควรคำนึงถึง ที่คุณควรจะสังเกตคงเป็นตัวเลขที่พิมพ์ติดอยู่ข้างกล้องเช่น 8x30, 7x42, 7-21x50 ตัวเลขเหล่านี้แหละเป็นสิ่งที่คุณควรจะต้องทำความเข้าใจเป็นอย่างแรก

        เลขตัวแรกคนส่วนใหญ่มักจะเดาได้ว่ามันคือกำลังขยายของกล้อง(magnification) กำลังขยายนี้เป็นตัวบอกว่ากล้องตัวนี้จะดึงภาพเข้ามาได้ใกล้เพียงใด เช่นกล้องที่มีกำลังขยาย 10เท่าจะทำให้วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 100 เมตร ปรากฏในกล้องเหมือนกับมันอยู่ห่างออกไปเพียง10เมตร

แต่ใช่ว่ากำลังขยายยิ่งมากจะยิ่งดีอย่างที่ทุกคนคิด!!  เพราะความจริงแล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป

เพราะกำลังขยายเพิ่มขึ้นความสว่างของภาพก็จะลดลง, มุมมองของภาพก็จะแคบลง

 และนอกจากนี้การสั่นไหวที่เกิดจากมือก็จะรู้สึกได้มากขึ้นจนทำให้รู้สึกวิงเวียนได้ง่าย

กล้องบางตัวก็มีเลขเป็นช่วงเช่น 7-21x50, 8-12x35 ซึ่งก็หมายความว่าสามารถซูมหรือ

เปลี่ยนกำลังขยายได้

ตัวเลขตัวหลังจะหมายถึงความกว้างของหน้ากล้อง(objective lens size) ในหน่วยของ

มิลลิเมตร กล้องที่มีหน้ากล้องใหญ่ก็ย่อมจะรับแสงผ่านได้มากกว่า ซึ่งก็หมายถึงว่าคุณจะเห็น

ภาพที่สว่างกว่า

แต่...อย่าเพิ่งคิดว่ากล้องที่หน้ากล้องกว้างๆจะดีกว่านะคะ  เพราะการที่หน้ากล้องกว้างมากๆ คุณก็จะได้กล้องที่ตัวใหญ่และน้ำหนักมากไปด้วย และถ้าคุณไม่ได้ใช้มันใน

ที่ๆแสงน้อย หน้ากล้องที่กว้างใหญ่นี้ก็ไม่ได้ให้ประโยชน์สักเท่าใด

จากตัวเลขกำลังขยายและขนาดของหน้ากล้องนี้ยังบอกข้อมูลอีกอย่างหนึ่งก็คือ ขนาดเส้น

ผ่านศูนย์กลางของลำแสงที่ผ่านเข้าสู่ตา (exit pupil) ตัวเลขนี้คิดคำนวณได้จากการเอาความ

กว้างของหน้ากล้องหารด้วยกำลังขยาย เช่น กล้องขนาด 8x40 ก็จะมีขนาดลำแสงเท่ากับ

40/8 = 5 มิลลิเมตร

ขนาดลำแสงยิ่งใหญ่ก็จะทำให้ภาพที่เห็นมีความเปรียบต่าง(contrast)ดีขึ้น แต่ขนาดลำแสงที่

 ใหญ่เกินไปก็ไม่มีประโยชน์นักเพราะขนาดของรูม่านตาของคนจะเป็นตัวจำกัดลำแสงที่ผ่านเข้า

นอกจากนี้กล้องที่ใช้ส่องเวลากลางวันก็ไม่จำเป็นจะต้องมีขนาดลำแสงใหญ่ถึง 7มม. เพียงแค่ 2-3มม.ก็เพียงพอแล้ว ส่วนกล้องที่จะใช้ในที่แสงน้อยอย่างการดูนกตอนเย็นย่ำ (อาจรวมถึงการส่องดูน้องนกข้างบ้านด้วยก็ได้) ก็น่าจะมีขนาดลำแสงประมาณ 5-7 มม.

2)ระบบการปรับระยะชัด (Focus System)

กล้องส่องทางไกลมีระบบการปรับโฟกัสหลายแบบด้วยกัน

1. Center Focus ระบบนี้จะมีปุ่มหมุนสำหรับปรับโฟกัสตรงกลางเพียงอันเดียว ทำให้สะดวกต่อการโฟกัส

2. Individual Focus ระบบนี้จะมีปุ่มปรับโฟกัสอยู่ที่กระบอกเลนส์ตาข้างละอัน สำหรับมือใหม่จะปรับโฟกัสลำบากหน่อยแต่ใช่จะไม่มีข้อดี เพราะรุ่นนี้จะกันน้ำ กันฝุ่นได้ดี โครงสร้างไม่ซับซ้อน

3. Focus Free ระบบนี้ไม่จำเป็นต้องโฟกัสเพราะระยะโฟกัสถูกตั้งมาแล้ว รุ่นนี้จะสะดวกมากแต่จะไม่คมชัดทุกระยะเหมือนกล้องที่ปรับได้