หลักจากที่ครั้งก่อน เราได้บอกประวัติของ กล้องโทรทรรศน์ กันไปแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงได้เข้าไปอ่านและคงเข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของ กล้องดูดาว กันไปแล้ว วันนี้เราจะมาต่ออีกเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งก็คือ ประเภทของ กล้องโทรทรรศน์ ว่าจริงๆแล้วมีทั้งหมดกี่แบบ ลักษณะเป็นอย่างไร โดยมีการแบ่งเป็นประเภทดังนี้
กล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสง (Refractor Telescope)
กล้องชนิดนี้ถือเป็นตัวที่เป็นต้นกำเนิดเลยก็ว่าได้ โดยต้นกำเนิดแรกสุดโดย กาลิเลโอ ต่อมาได้ถูกพัฒนาโดยสมบูรณ์โดย เคพเลอร์
กล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสง จะมีการใช้เลนส์นูนสองชั้น โดยจะมีขนาดหน้าตัดที่ไม่ใหญ่มากนัก ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าใหญ่มากเท่าไร ก็จะทำให้น้ำหนักเลนส์กล้องมีมากขึ้นตามไปด้วย และด้วยที่กล้องชนิดนี้มีการสร้างที่ง่ายที่สุด ส่งผลให้ราคาของกล้องดูดาว แบบหักเหแสง ก็ถูกที่สุดเช่นกัน โดยราคาโดยเฉี่ย เริ่มต้นที่ประมาณ หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นต้นๆ แน่นอนว่าคุณภาพที่ได้ก็อาจจะไม่สูงมากเช่นกัน โดยส่วนมากกล้องชนิดนี้จะส่องได้จำพวก ดาวเคราะห์และดวงจันทร์เท่านั้น
กล้องโทรทรรศน์ แบบสะท้อนแสง (Reflector Telescope)
กล้องโทรทรรศน์ ที่ถูกคิดค้น และมีบทบาทสำคัญในการส่องดูดาวเคราะห์เป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือ กล้องแบบสะท้อนแสง โดยถูกคิดค้นและพัฒนาโดยนิวตัน โดยเริ่มมีการใช้กระจกเว้าและเลนส์นูน
กล้องโทรทรรศน์ แบบสะท้อนแสง จะมีคุณภาพดีกว่ากล้องแบบหักเหแสง โดยจะได้ความสว่างและความคมชัดที่มากกว่า โดยลักษณะตัวกล้อง จะออกไปทางอ้วน ไม่มีความยาวมากเหมือนแบบหักเหแสง เพราะว่าแสงมีการวิ่งไป-กลับอยู่ในกล้อง ทำให้ขนาดของกล้องไม่ยาวนั่นเอง โดยราคาโดยเฉลี่ย เริ่มต้นที่ประมาณ หลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลายหมื่น เลยทีเดียว
กล้องโทรทรรศน์แบบ แคสสิเกรน (Cassegrain Telescope)
กล้องที่ถูกผลิตและคิดค้นโดย แคสสิเกรน โดยถูกผลิตคิดค้นขึ้นในปี 1672 โดยจะมีอยู่สองชนิดย่อยคือ ชมิดท์ แคสสิเกรน และ แมคซูทอฟ แคสสิเกรน แต่จริงๆแล้วหลักการทำงานเหมือนกัน โดยมีการใช้กระจกสองชิ้น บวกกับเลนส์อีกหนึ่งชิ้น โดยจะมีการสะท้อนแสงที่ซับซ้อนกว่า กล้องดูดาว แบบสะท้อนแสง และทำให้ได้ความยาวโฟกัสมากกว่ากล้องที่มีขนาดเท่าๆกัน
โดยที่การสร้างกล้องแบบแคสสิเกรน มีการสร้างที่ยากที่สุด มีคุณภาพแสงที่สูงมาก ทำให้ราคาค่อนข้างที่จะสูงมากๆ โดยราคาโดยเฉลี่ย จะเริ่มต้นที่หลัก หลายหมื่นบาท ไปจนถึง หลายแสนบาท เลยทีเดียว
สุดท้ายนี้เราขอสรุป ความแตกต่างของกล้องทั้ง 3 ชนิด ให้เข้าใจได้ง่ายๆดังนี้
ราคา
กล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสง : ราคาเบาๆ จับต้องได้ง่าย เริ่มต้น หลักพัน - หลักหมื่น
กล้องโทรทรรศน์ แบบสะท้อนแสง : ราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย เริ่มต้นที่ หลักหมื่น - หลายหมื่น
กล้องโทรทรรศน์ แบบแคสสิเกรน : ราคาสูงที่สุด เริ่มต้นที่ หลายหมื่น - หลายแสน
รูปร่างกล้อง
กล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสง : ลักษณะเรียวยาว มีเลนส์อยู่ด้านหน้า - หลัง บางทีการต่อเลนส์ใกล้ตาจะมีการต่อข้อตัว L ช่วยให้มองได้ง่ายยื่งขึ้น
กล้องโทรทรรศน์ แบบสะท้อนแสง : ลักษณะใหญ่ ตำแหน่งของเลนส์จะส่องที่บริเวณด้านข้างของกล้อง
กล้องโทรทรรศน์ แบบแคสสิเกรน : ลักษณะใหญ่ ตำแหน่งของเลนส์อยู่ที่บริเวณท้ายกล้องเหมือนกับแบบหักเหแสง
การพกพา
กล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสง : มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย อาจจะมีลำกล้องที่ยาวกว่ารุ่นอื่น
กล้องโทรทรรศน์ แบบสะท้อนแสง : มีน้ำหนักพอสมควร ขาตั้งมีขนาดใหญ่
กล้องโทรทรรศน์ แบบแคสสิเกรน : มีน้ำหนักพอสมควร ขาตั้งมีขนาดใหญ่
การมองเห็น
กล้องโทรทรรศน์ แบบหักเหแสง : รับแสงได้ต่ำ ความคลาดเคลื่อนสูง เหมาะกับการดูดาวเคราะห์และดวงจันทร์
กล้องโทรทรรศน์ แบบสะท้อนแสง : รับแสงได้ดี ความคลาดเคลื่อนต่ำ เหมาะกับการดูดาวเคราะห์ วัตถุท้องฟ้าอื่นเช่น เนบิวลา กาแล็คซี่
กล้องโทรทรรศน์ แบบแคสสิเกรน : รับแสงได้ดี ความคลาดเคลื่อนต่ำ เหมาะกับการส่องดูวัตถุทุกประเภท
หลังจากที่เรารู้จัก กล้องโทรทรรศน์ หรือ กล้องดูดาว กันไปแล้วว่ามีทั้งหมด 3 ชนิดหลักในปัจจุบันแล้ว ล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน มีลักษณะการทำงานไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ ประเภท ขนาด และที่สำคัญที่สุดคือในเรื่องของ "ราคา" นั่นเอง ไม่แน่นะในอนาคตอาจจะมีกล้องดูดาวแบบใหม่ถือกำเนิดขึ้นมา ในราคาถูกกว่านี้ก็ได้ อย่างที่เราเห็นโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน เริ่มมีการซูมได้ถึงดวงจันทร์แล้ว และทำไมกล้องดูดาว จะส่องไปได้ไกลถึงดวงดาวที่โลกไม่เคยได้เห็นมาก่อน ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตตราบใดที่เทคโนโลยียังก้าวหน้าอยู่ตลอด วันนั้นต้องมีมาถึงแน่นอน