ในปัจจุบันนั้นปฎิเสธเสียไม่ได้เลยว่าทุกๆบ้าน หรือในทุกๆพื้นที่นั้นต้องมี ไฟฉาย ติดอยู่ในบ้านกันอย่างน้อยๆก็ต้องมีสัก 1 แท่ง เพราะว่าไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดการไฟฟ้าดับเมื่อไร การที่มีไฟฉายนั้นก็จะสามารถใช้ทดแทนได้ในทันที หรือการที่จะออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การสำรวจพื้นที่ในตอนกลางคืน ก็จำเป็นที่จะต้องมี ไฟฉาย ติดตัวไปในทุกครั้ง เพราะในเวลากลางคืนนั้นจะมีภัยอันตรายมากมายและน่ากลัวในตอนกลางวันนั่นเอง และไฟฉายแบบไหนที่เรียกว่าเป็นไฟฉายที่มีคุณภาพ และ ใช้งานได้ดีเหมาะกับวัตถุประสงค์การใช้งานที่สุด วันนี้เราเลยจะขอแนะนำหลักการเลือกซื้อไฟฉายมาให้ได้รับทราบกัน จะมีหลักการอะไรบ้าง โดยหลักการเลือกซื้อนันมีดังนี้
ขนาดของไฟฉาย
แน่นอนว่าขนาดของไฟฉายนั้นต้องมาเป็นลำดับแรก เพราะขนาดของไฟฉายจะมีสิ่งที่มาควบคู่เลยคือ น้ำหนัก นั่นเอง ยิ่งไฟฉายมีขนาดใหญ่ ก็จะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ฉะนั้นไฟฉายที่ดี ควรจะมีน้ำหนักที่พอเหมาะ ไม่หนักจนเกินไปเพื่อให้สามารถพกหรือถือใช้งานได้นานนั่นเอง
ในไฟฉายแต่ละชนิดนั้นก็จะมีประเภทแตกต่างกันไปเช่น ไฟฉาย Ultrafire ไฟฉายเดินป่า หรือ อื่นๆ ซึ่งทำไมต้องแยกชนิดของไฟฉาย ก็เพราะว่า ความสว่าง ของไฟฉายแต่ละชนิดนั้นมีความแตกต่างกัน เพราะมีการใช้หลอดของไฟฉายที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นการเลือกซื้อก็ต้องเลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
งบประมาณ ราคา
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญเป็นลำดับต้นๆเลยก็คือเรื่องของ ราคา เพราะราคานั้นจะเป็นตัวบ่งชี้และแยกแยะ ประเภท ชนิด ขนาด ออกมาได้อย่างชัดเจน เพราะว่าถ้าอยากได้ไฟฉายที่มีคุณภาพสูง แสงไฟสว่างมากๆ ก็จะต้องมีราคาที่สูงตามไปด้วย ซึ่งสิ่งที่ทำให้ราคานั้นแพงก็เพราะว่า วัสดุ ชนิดของหลอด น้ำหนัก ประเภทชาร์จหรือถ่าน เป็นต้น ซึ่งถ้าใช้วัสดุดีๆ ใช้งานได้นานหลายชั่วโมง ก็จะมีราคาที่แพงมากขึ้น แต่ถ้าเลือกแบบใส่ถ่าน ก็อาจจะได้ไฟฉายในราคาที่มีราคาต่ำลง แต่ไม่ใช่ว่า ถูกกว่าจะได้ของไม่ดี สิ่งที่ถูกบางทีอาจจะดีกว่าสิ่งที่แพงก็เป็นได้ ฉะนั้นการเลือกซื้อไฟฉายควรไปลองเล่น ลองใช้ด้วยตัวเอง เพื่อจะได้รู้ว่า มันเหมาะกับการใช้งานของเราหรือไม่
ฉะนั้นการเลือกซื้อไฟฉายนั้น จะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ใช้งานเป็นประจำ หรือ ใช้ในการทำงาน ควรเลือกให้เหมาะต่อการนำไปใช้งาน เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้นั้นได้ใช้งานไฟฉายอย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง